LAIS ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ ซัมเมอร์แคมป์ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เยอรมัน ทุกระดับชั้นเรียน

แนะนำหลักสูตรและสาขา การเรียนต่อต่างประเทศ ทางด้าน การเรียนต่อหมอผิวหนัง

 

ถือว่าเป็นคณะยอดนิยมมากในช่วงหลัง ๆ นี้มาเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย ที่เป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตเม็ดเงินและทำรายได้ค่อนข้างมาก ถ้าจำไม่ผิดถือเป็นรายได้โดยเฉพาะในประเทศไทยพุ่งไปอยู่ถึงอันดับที่สามของรายได้ประเทศไทยเลยกว่าได้ ก็ไม่แปลกนักกับการสอดคล้องในยุคสมัยที่ทุกคนนอกจากจะใส่ใจสุขภาพร่างกาย ผิวพรรณ หน้าตาถือเป็นส่วนสำคัญ การเรียนต่อทางเฉพาะทาง ด้านแพทย์ผิวหนังจึงได้รับความนิยมค่อนข้างมาก

 

แน่นอนระดับนี้เรามักจะเป็นเรียนต่อระดับปริญญาโท ต่อเนื่องจากระดับปริญญาตรีที่นักเรียนไทยเรียนกัน  หัวใจการเรียนต่อคณะนี้ให้นักเรียนนึกถืงให้มาก ๆ คือ การรับเข้ามีที่นั่งจำกัด และมีการแข่งขันสูงมาก คุณสมบัตินอกจากจะเป็นเกรดเฉลี่ยตามกำหนดแล้ว ประสบการณ์ทำงานในคลีนิคถือเป็นตัวแปลอย่างมาก หากนักเรียนที่เพิ่งจบ แต่ยังขาดประสบการณ์ตรงนี้ไป ให้นักเรียนวางแผนก่อนในการเก็บประสบการณ์การทำงานแบบ Full time ในคลีนิคให้ก่อน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีหนึงถึงสองปี  ในการดูแลคนไข้ด้านผิวหนัง ไม่นับการฝึกงานระหว่างเรียน หลาย ๆ คนเลือกที่จะเดินทางเข้าเก็บประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็นการลงคอร์สระยะสั้น ๆ ควบคู่กันไปในต่างประเทศให้มีโปรไฟล์ที่ดี และประสบการณ์รักษาคนไข้ด้านผิวหนังที่หลากหลาย

 

เนื่องจากขั้นตอนการรับเข้าเรียนนอกจากจะต้องมีจดหมาย Reference letter จากอาจารย์แล้ว มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ยังต้องการจากที่ทำงานด้วยเช่นกัน

 

สำหรับการเรียนต่อปริญญาโทด้าน Dermatology เท่าที่ผ่านมานักเรียนไทยจะเลือกไปประเทศอังกฤษ ด้วยโครงสร้างหลักสูตรที่เรียนหนึ่งปี  ในประเทศอังกฤษเองคณะนี้ก็เปิดสอนมีจำนวนไม่มาก และแน่นอน จำกัดที่นั่งในการรับซึ่งเป็นตัวแปลสำคัญ นักเรียนจึงต้องวางแผนล่วงหน้าดี ๆ เมื่อทราบว่าเรียนต่อปริญญาโท ให้มองหลักการพื้นฐานด้านนี้ก่อนคือ รีบสมัครทันทีเมื่อมหาวิทยาลัยเปิดรับสมัคร เตรียมเอกสารโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Reference letter ที่ควรบอกทั้งอาจารย์ผู้สอนเดิมและ จากที่ทำงานคือ Specialist

 

Overview - Dermatology

การเรียนหมอผิวหนังในระดับปริญญาโทก็จะมีเนื้อหาที่คลอบคลุมหลักการจัดการสภาพผิวในผู้ป่วยทุกวัย สภาพของโรคผิวหนัง เทคนิคในการวินิจฉัย ความผิดปรกติของผิวหนังและเยื่อเมือก ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิต ภูมิคุ้มกัน ชีววิทยา ผิวหนังอังเสบ โรคผิวหนังเม็ดสี มะเร็งผิวหนัง การผ่าตัด ผลกระทบทางจิตวิทยาของโรคผิวหนัง การศึกษาผู้ป่วยและการให้บริการ

 

ด้านการบริหาร นักเรียนจะได้เรียนรู้การพัฒนาการตัดสินใจแก้ไขปัญหา ความเป็นผู้นำ การดึงข้อมูลเพื่อเชิงวิเคราะห์และประยุกต์ การตรวจสอบการทำวิจัยสนับสนุนต่าง ๆ  

 

 

Admission- Dermatology

การรับสมัครต้องบอกก่อนว่าคณะนี้มีจำนวนจำกัด ความยากอีกอย่างคือนักเรียนต้องวางแผนการสมัครดี ๆหมายถึงการพิจารณาคือ ใครยื่นก่อนรับพิจารณาก่อนนั้นเอง ยกตัวอย่างการส่งเอกสารที่ล่าช้าไปมาก ถึงแม้ว่าคุณสมบัติของเราจะผ่านหมด แต่ด้วยที่นั่งที่มีจำกัด คนที่สมัครก่อนย่อมมีโอกาสมากกว่าอยู่แล้ว

 

ผลสอบภาษาอังกฤษแน่นอนต้องเตรียมตัว แต่ส่วนใหญ่นักเรียนหมอไม่ค่อยมีปัญหาด้านนี้กันสักเท่าไหร่ คะแนนที่มหาวิทยาลัยต้องการก็ปรกติเริ่มที่  IELTS  6.5-7.0 หากไม่ถึงในบางที่มหาวิทยาลัยก็สามารถให้เราไปเรียนภาษาปรับพื้นฐานก่อนได้ Pre sessional แต่มองระดับลึกหากเรียนหมอมาแล้วครึ่งทางส่วนใหญ่เราพบว่านักเรียนกลุ่มนี้ทำคะแนนได้ดีอยู่ในคะแนนระดับบน ๆ อยู่ แต่ถ้าให้ดีนักเรียนควรจะได้ให้เต็มตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดไปเลย และอาศัยการเรียนภาษาเป็นตัวเสริมให้เราไปก่อนเพื่อปรับตัวจะดีกว่ามาก เนื่องจากเอากันตรง ๆ การเรียนแพทย์เรียนหมอ ภาษาอังกฤษควรดีระยะปลอดภัยมีต้นทุนที่สูงดีกว่ามาก

 

หากคณะด้าน Dermatology ของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็จะรับนักเรียนด้าน clinical medicine จากสถาบันที่ได้รับการยอมรับเป็นปรกติ บางที่จะรับด้วยประสบการณ์ทำงาน 1-2 ปีหลังจากเรียนจบกับสาขาผิวหนังที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรือบางที่ก็เอาแค่ประสบการณ์ทั่วไป 1 ปี  และอย่างที่กล่าวหัวใจคือ reference letter จากที่ทำงานหรือที่เราฝึกงานเป็นต้น

สำหรับจำนวนมหาวิทยาลัยที่เปิดในประเทศอังกฤษที่มีสาขาเฉพาะด้านนี้ จะมีอยู่หลักๆ ไม่กี่มหาวิทยาลัย ได้แก่

  • มหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ
  • มหาวิทยาลัยคาร์ดีฟ
  • มหาวิทยาลัยฮาร์ตฟอร์ดเชียร์

ซึ่งจะเป็นสามมหาวิทยาลัยหลัก ๆ ที่นักเรียนในระดับปริญญาโท สนใจเรียน เกณฑ์การรับเข้าก็ต่างกัน แน่นอน ในเรื่องของเกรดเฉลี่ย เป็นต้น

รายละเอียดเปรียบเทียบทั้งสามมหาวิทยาลัยที่ให้เห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับรายวิชาของแต่ละมหาวิทยาลัยว่าเรียนอะไรกันบ้าง เกณฑ์การรับเข้า และคุณสมบัติของผู้สมัคร
สามารถ click ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.laisinterstudy.com/blog/รวมหลักสูตรปริญญาโทอังกฤษแพทย์ผิวหนัง-msc-clinical-dermatology

 

เอกสารสำคัญในการสมัครคณะแพทย์ผิวหนัง

1) Transcript

2) Degree Certificate

3) Personal Statement (SOP) 

4) CV/Resume

5) A copy of passport

6) IELTS (ผลสอบภาษาอังกฤษ สามารถยื่นตามทีหลังได้)

7) Certificate from The Medical Council of Thailand (ใบรับรองแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ)

8) 2 Recommendation Letters 

 

**เอกสารส่วนนี้ค่อนข้างสำคัญมาก แนะนำว่าให้น้องๆ เตรียมขอจดหมายรับรองมาจากมหาวิทยาลัย 1 ฉบับ และจากที่ทำงาน 1 ฉบับ เนื่องจากว่ามหาวิทยาลัยที่รับสมัครสาขา Clinical Dermatology จะ require ประสบการณ์ทำงานด้านคลินิกผิวหนัง 1-2 ปี (Full-Time) ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยด้วย ดังนั้นแนะนำว่าควรจะมีจดหมายจากคลีนิคมาด้วยจะช่วยในการพิจารณา

 

ขั้นตอนในการสมัครเรียนต่อแพทย์ผิวหนังต่างประเทศ Clinical Dermatology

1) เตรียมเอกสารที่แนะนำให้พร้อมในการสมัคร

2) ยื่นสมัครตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป แนะนำว่าช่วงที่ดีที่สุดในการสมัครเรียนต่อแพทย์ผิวหนังต่างประเทศคือช่วง ตุลาคม-มกราคม (สำหรับ September intake) เนื่องจากการรับเข้าของมหาวิทยาลัยจะเป็นการพิจารณาแบบ First come, first served แต่สำหรับบางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาเป็นรอบๆ ทางที่ดีแนะนำว่าให้รีบสมัครก่อนจะดีที่สุด

3)  สำหรับบางมหาวิทยาลัยจะมีให้ผู้สมัครเรียนต่อแพทย์ผิวหนัง เขียนอธิบายเกี่ยวกับ Patient’s skin disease ที่ผู้สมัครเคยเจอหรือวิธีที่เคยทำการรักษาคนไข้ที่มีปัญหาผิวหนังเคสนั้นๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญอย่างมากสำหรับที่ผู้สมัคร เวลาเขียน Personal Statement (หรือ SOP) ควรที่จะอธิบายเคสคนไข้ลงไป เนื่องจาก Admission Team ของคณะแพทย์ผิวหนังจะพิจารณาจากเคสคนไข้ที่บอกเล่าไปด้วยว่าเคสที่ผู้สมัครเคยเจอมานั้น เคสมีความน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน

4) หลังจากทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะใช้เวลารอประมาณ 4-16 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย ที่การพิจารณาค่อนข้างใช้เวลาเนื่องจากการเรียนต่อแพทย์ผิวหนังต่างประเทศค่อนข้าง selective มากๆ ในการพิจารณาจึงต้องพิจารณอย่างถี่ถ้วน เพราะการเรียนในคลาสบางมหาวิทยาลัย รับปีละแค่ 15 คนก็มี

5) หลังจากการที่ได้รับการตอบรับแล้วทำอะไรเป็นขั้นตอนต่อไปดี? ถ้าผู้สมัครได้รับการตอบรับของมหาวิทยาลัยที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตอบรับ (Accept offer) และจ่ายค่ามัดจำ เป็นการยืนยันเพื่อsecure ที่เรียน

6) การเข้าเรียนต่อเรียนต่อแพทย์ผิวหนังต่างประเทศ ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะขอให้ผู้สมัครไปตรวจเช็คประวัติอาชญากรรมCriminal Record Checking ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ออกใบรับรอง Police Clearance Certificates เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้สมัครมีประวัติที่ดี ไม่เป็นอันตรายต่อประทศ และการเข้าไปศึกษาต่อในคณะแพทย์ผิวหนัง

 

สำหรับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อแพทย์ผิวหนังสามารถดูรายชื่อมหาวิทยาลัยเปิดสอนเพิ่มเติมได้ทิ่ลิงค์นี้

https://www.laisinterstudy.com/blog/รวมหลักสูตรปริญญาโทอังกฤษแพทย์ผิวหนัง-msc-clinical-dermatology

 

รับปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศ  การเรียนต่อหมอผิวหนัง ศึกษาต่อต่างประเทศ ได้ที่ตัวแทนประเทศไทย ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ

The Lion Academy of International Studies

B Floor, Fashion Island Shopping Mall, Island Academy Zone, Ramintra Road, Bangkok 10230  

Working hours  Tuesdays – Fridays 10.00 am -19.00 pm  Saturdays -  Sundays 10.00 am -18.00 pm.

 

 

The Lion Academy of International Studies

Lion Academy  คือศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา หากมองหา ที่ปรีกษาในการเรียนต่อต่างประเทศ เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรีทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสถาบันการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสามารถของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาระยะสั้นไปจนถึงระดับปริญญาเพื่อต่อยอดอนาคตของท่าน

ฟรี! ให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศ แนะแนวทางการเรียนต่อต่างประเทศ  สนใจเรียนต่อต่างประเทศติดต่อมาที 

The Lion Academy เราพร้อมให้ข้อมูลคุณ หรือ ใส่ข้อมูลติดต่อเบื้องต้นเพียงเล็กน้อยที่ฟอร์มด้านล่าง เราจะรีบติดต่อกลับโดยเร็วทึ่สุด..

*** หลังจากกดส่งแล้ว รบกวนรอ 5 วินาที ในการส่งนะคะ

ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม

หรือลูกค้าสามารถติดต่อเราผ่านทาง LINE ID เพียงคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ...!

Tel. 02-074-9020 , Mobile 097-080-5659