เรียนภาษาต่างประเทศ อายุ 16 ปีขึ้นไป

     ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ The Lion Academy of International Studies ทีมงานเดอะไลอ้อนให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ปรึกษาเรียนคอร์สภาษาต่างประเทศ ได้ที่ เดอะไลอ้อนอะคาเดมี่ ชั้นบี ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา โซนการศึกษา T: 02-074-9020 ให้บริการทุกวันอังคาร์ – ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น และ เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น

     สำหรับการวางแผนเรียนภาษาต่างประเทศ เดอะไลอ้อนคิดว่าเป็นการวางแผนที่มีขั้นตอนที่น้อยที่สุด และง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้เวลามาก และสามารถกำหนดวันตามความสะดวก

     การเรียนภาษาระยะสั้น เช่น ซัมเมอร์ ภาษาระยะสั้น จนถึง 1 ปี  โรงเรียนในต่างประเทศส่วนใหญ่จะเปิดเรียนทุก ๆ วันจันทร์

     ค่าเทอม  ค่าเทอมส่วนใหญ่จริงๆ นักเรียนสามารถกำหนดขอบเขตของแต่ละคนได้ มีงบประมาณเลือกได้ตามแต่ละคนได้ เนื่องจาก โรงเรียนและสถาบันต่างมีราคา หรือ โปรโมชั่นต่างๆ นำเสนออยู่ตลอด การลงทะเบียนจะนับเป็นรายสัปดาห์ สามารถลงทะเบียนเรียนได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป จนถึง 1 ปี เป็นต้น

     การเลือกประเภทโรงเรียนภาษาต่างประเทศ  เดอะไลอ้อนจะขอเป็นประเภทของโรงเรียนให้เข้าใจกว้าง ๆ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

1. Private English Language School โรงเรียนภาษาต่างประเทศ แบบเอกชน ทางเดอะไลอ้อนจะขอแบ่งประเภทแยกออกมาเป็น 2 ประเภทให้เข้าใจภาพแบบง่าย ๆ
   1.1 Local Brand: โรงเรียนภาษาประเภทนี้ เราจะเห็นว่าเป็นโรงเรียนภาษาในเมืองนั้น ๆ มีสาขาไม่มาก อาจจะมีที่ตั้งในเมืองนั้น ๆ หรือ มีแค่สาขาเดียวในเขตเมืองต่าง ๆ เช่น เรียนภาษาในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย ก็จะเห็นโรงเรียนในเมืองซิดนีย์ ข้อดี จะได้เปรียบเรื่องราคา ค่าเรียนอาจจะไม่แพงมาก
   1.2 Global Brand: โรงเรียนภาษาประเภทนี้ เราจะเห็นว่า โรงเรียนประเภทนี้จะมีสาขาเกือบทั่วโลก ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ เช่น เรียนภาษาในอเมริกา โรงเรียนประเภทนี้ จะมีสาขาทั่วเมืองในอเมริกา นิวยอร์ค แคลิฟอร์เนีย และยังมีอีกสาขาในประเทศอื่น ๆ ข้อดี โรงเรียนประเภทนี้จะเห็นได้ชัดคือ เรื่องอุปกรณ์ที่ทันสมัย Facilities หรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงเรียนจะเห็นได้ชัดเจน

      2. University English Language Centre ศูนย์ภาษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีศูนย์ภาษา ซึ่งโดยปรกติมหาวิทยาลัยจะมีศูนย์ภาษารองรับให้นักเรียนต่างชาติ เตรียมตัวในการเรียนในระดับปริญญาขึ้นไปเป็นต้น และเปิดรับสอนภาษาให้กับบุคคลที่สนใจทั่วไปด้วยเช่นกัน แต่การเรียนในศูนย์ของมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่วันเริ่มเรียนจะมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะไม่ได้เริ่มทุกวันจันทร์ แต่ส่วนใหญ่ก็เริ่มเรียนได้เกือบทุกเดือนเช่นกัน ข้อดี การเรียนภาษาในศูนย์ของมหาวิทยาลัยคือ สถานที่ที่มีความชัดเจน มีพื้นที่ขนาดที่ใหญ่กว่า ได้ใช้ Facilities ภายในมหาวิทยาลัยด้วย เช่น ห้องสมุด, Internet Centre, Café ร้านอาหาร และที่เดอะไลอ้อนเห็นชัดเจนอีกข้อคือ การได้เห็นบรรยากาศการเรียนการสอนที่ บรรยากาศมหาวิทยาลัย นักเรียนท้องถิ่นที่ต้องเข้ามาเรียนแบบปรกติ

คอร์สที่ส่วนใหญ่เปิดสอนในศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

• General English: เรียนภาษอังกฤษทั่วไป
• Academic English: เรียนภาษาเน้นวิชาการ 
• One-to-One Tuition: เรียนตัวต่อตัว 
• Bespoke Courses: คอร์สที่ดีไซน์แบบเฉพาะตามวัตุประสงค์ของผู้เรียน 
• Pre-sessional Courses: โปรแกรมภาษาที่ไว้สำหรับนักเรียนที่คะแนนภาษาไม่ถึงตามเกณฑ์ เพื่อปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียนในระดับปริญญาต่อไป

ขั้นตอนการเตรียมตัวและสมัครเรียน มีขั้นตอนที่สั้น ๆ ไม่ต้องเตรียมตัวหรือใช้เวลามาก

1. เตรียมเอกสารที่ใช้ในการสมัคร
   • พาสปอร์ต A copy of passport
   • กรอกรายละเอียดที่อยู่ Email และรายละเอียดคนที่ติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน 
2. รอจดหมายตอบรับจากโรงเรียน เมื่อนักเรียนได้รับจดหมายตอบรับจากโรงเรียน ในจดหมายจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับคอร์ส วันเริ่มเรียน ค่าใช้จ่ายต่าง
3. ทำการยื่นวีซ่า เตรียมเอกสาร กรอกใบสมัคร และเตรียมตัวเพื่อให้การสัมภาษณ์ในบางประเทศที่ต้องมีสัมภาษณ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 

การวางแผนเรียนภาษาต่างประเทศ เดอะไลอ้อนแนะนำว่า อาจจะตั้งคำถามแรกให้ตัวเองก่อนว่า

1. สนใจอยากไปเรียนประเทศอะไร เพราะการเรียนภาษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักคอร์สที่สอนก็จะคล้ายๆ กัน อยู่ที่ความต้องการส่วนบุคคลว่าอยากไปประเทศอะไรก่อน
2. ช่วงเวลาที่ต้องการไป หากวางแผนไปเรียนจะไปช่วงไหน เช่น ปิดเทอม เรียนจบ จะได้วางแผนเรื่องการเตรียมเอกสารไว้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสมัครเรียน และเอกสารในการทำวีซ่า
3. งบประมาณ ส่วนใหญ่ราคาค่าเรียนโรงเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศ ยิ่งลงทะเบียนนานราคาจะลดลง ราคาจะต่อสัปดาห์จะถูกลงเมื่อนักเรียนลงทะเบียนมากขึ้นนั้นเอง โปรโมชั่นก็สามารถอัพเดทได้กับตัวแทน ในช่วงเวลานั้น ๆ คำแนะนำของเดอะไลอ้อนก็คือ ให้ตรงกระเป๋าเงินและตรงใจ เพราะว่าการเรียนภาษาให้เก่งนั้น ปัจจัยโรงเรียนเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น สำคัญอยู่ที่ตัวผู้เรียนว่าไปแล้วจะพัฒนาตั้งใจด้วยวิธีอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง