LAIS ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ ซัมเมอร์แคมป์ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เยอรมัน ทุกระดับชั้นเรียน

 “เรียนต่อแพทย์แคนาดา สิ่งแรกที่สำคัญที่ต้องทราบคือ แคนาดาไม่รับนักเรียนจบจากมัธยมปลายเข้าเรียน Medical Programme ทันที”

MD Program

 

Tuition fee: ค่าเทอมปีละ 2 ล้านนิด ๆ

Living Cost: ค่าบ้านกินอยู่ก็เพื่อไว้อีก ปีละ 1 ล้านกว่า ๆ

Duration: 4 Years

 

สำหรับการเรียนต่อแพทย์ในแคนาดาหากเป็นนักเรียนต่างชาติก็ต้องมาหาข้อมูลว่าคณะแพทย์ศาสตร์ของประเทศนั้นอนุญาตให้เราเรียนได้หรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่ก็จะให้คนในประเทศของเค้าเรียน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย และการเสียภาษีต่าง ๆ ที่มีมาดูในส่วนของมหาวิทยาลัยที่รับต่างชาติได้  การเข้าแพทย์ในแคนาดาสำหรับนักเรียนต่างชาติ (International Students) ในแต่ละมหาลัยก็จะมีข้อกำหนดแตกต่างกันไป หากนักเรียนหรือผู้ปกครองมองว่าจุดหมายปลายทางคือแพทย์แล้วนั้น อีกครั้งเราก็ยังแนะนำว่าต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่ระดับมัธยม ถ้าอยากเรียนแพทย์ในแคนาดา ก็เรียนมัธยมในแคนาดาไปอย่างน้อย 3 ปีก็ตั้งแต่เกรด 10-12 หรือมากกว่านั้นก็ยิ่งดี (ไปตั้งแต่อายุน้อย ๆ) และเรียนต่อปริญญาตรีในแคนาดาต่อเลย อันนี้หมายถึงว่าจะช่วยในเรื่องทักษะของภาษาไปด้วยในตัว ที่นี้มาดูว่าการเข้าเรียน MD program ที่แคนาดา อย่าง University of Toronto

 

*สิ่งแรกที่สำคัญที่ต้องทราบคือ แคนาดาไม่รับนักเรียนจบจากมัธยมปลายเข้าเรียน Medical Programme ทันที ยกตัวอย่างเช่น University of Toronto ที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในแคนาดา #1 in Canada for Medicine จากสำนึก QS Rankings แล้วต้องเรียนอะไรก่อน? นักเรียนจำเป็นต้องเรียนจบระดับปริญญาตรีมาก่อนนั้นเอง และช่วงที่ดีที่สุดในการยื่นในใบสมัครคือในช่วงเริ่มต้นเรียนปี 3 ของระดับปริญญาตรีก็สามารถเริ่มยื่นใบสมัครในการเรียน

 

เกณฑ์การรับเข้า ขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ที่ต้องมี คือ Academic and Non-Academic

Academic Requirements

  • จบปริญญาตรีในแคนาดามาอย่างน้อย 3 ปี หรือ 4 ปีนอกแคนาดา ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแพทย์ (non-medical degree)
  • Medical College Admission Test (MCAT) Score 125 in each section อนุญาตให้มี 124 ได้ในหนึ่ง Section
  • เกรดเฉลี่ย 3.6
  • PREREQUISITE COURSE ต้องมีลงเรียนพื้นฐานวิชาคือ Two full- course (FCEs) in Life Science เช่น
    • Anatomy
    • Biochemistry
    • Biology – including Biomedical Engineering courses that focus on the life systems
    • Botany
    • Clinical Biochemistry
    • Immunology
    • Microbiology
    • Molecular Genetics & Molecular Biology
    • Some Nutritional Sciences
    • Pharmacology & Toxicology
    • Physiology
    • Zoology

and one FCE in a social science, humanity, or a language. เช่น

    • Economics
    • Geography (Social)
    • Political Science
    • Sociology
    • Gender Studies
    • Criminology

 

Non-Academic Requirements ก็จะเป็นในเรื่องเกี่ยวทัศนคติต่าง ๆ เล่าประวัติส่วนตัว กิจกรรมจิตอาสา ซึ่งการพิจารณาก็จะมีองค์ประกอบ ความรับผิดชอบ ความสำเร็จต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่เคยได้รับ การทำงานเป็นทีมเวิรค์ ทักษะความเป็นผู้นำ การช่วยเหลือสังคม ความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น พูดง่าย ๆ ทักษะ Soft Skills ต่าง ๆ นั้นเอง ซึ่งตรงนี้ระหว่างที่เรียนปริญญาตรีอยู่นักเรียนก็ควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านนี้ไว้ด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ในการเล่าเรื่องราวของเรา และส่วนของผู้ที่จะเขียน Reference ให้เราด้วยเช่นกัน และที่สำคัญสำหรับนักเรียนต่างชาติคือผลระดับของภาษาอังกฤษด้วยนั้นเอง อย่าลืมว่าหัวใจของการเรียนต่างประเทศคือยังหนีไม่พ้นภาษาอังกฤษ

 

ก็เป็นโครงสร้างกว้าง ๆ ในการวางแผนเรียนแพทย์ต่อโดยเฉพาะในแคนาดา ข้อมูลทั้งหมดนี้ทางทีมงานก็อ้างอิงจากเว๊ปไซต์และสรุปให้เป็นภาษาไทยในการทำความเข้าใจง่ายๆ ในระดับโครงสร้างการเรียน อย่าลืมว่าในแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีระบบการรับเข้าที่อาจจะมีความแตกต่างกันไป ต่อให้อยู่ประเทศเดียวกันก็รับไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยการได้เตรียมตัวก่อนและวางแผนล่วงหน้าเป็นปีถือว่าควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าต้องศึกษาข้อมูลกันอย่างละเอียดไม่ใช่น้อย นักเรียนไม่ควรวางแผนแบบกระชั้นชิด เนื่องจากคณะแพทย์ไม่ว่าที่ไหนในโลกก็ล้วนแล้วแต่มีการแข่งขันและรับไม่เยอะ ถ้าจะพลาดก็จะพลาดเรื่องเวลากันส่วนใหญ่ ดังนั้นถ้าเป้าหมายชัดเจนก็เตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ นั้นได้เปรียบเสมอ

 

สำหรับปลายทางหลังการเรียนจบโอกาสก็คงมีล้นมือ เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่เราเรียนได้ จะหาทางออกในอาชีพต่อไปไม่ได้ยากแน่นอนสุดท้ายก็ไปวัดกันที่ความสามารถกันอยู่ดี ส่วนเรื่องของการทำงานก็ต้องเป็นเรื่องปลายทางที่นักเรียนต้องศึกษาเพิ่มเติมไป ไม่ว่าจะเป็นการสอบ license ต่าง ๆ และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ ก็คงไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำ ขึ้นตอนนี้ยังไม่ต้องไปกังวลกับมันมากอะไร สำคัญขึ้นแรกที่ควรพิจารณาและวางแผนให้ผ่านไปตามลำดับความสำคัญ

 

สรุป ในการเรียนต่อแพทย์อย่างในประเทศแคนาดา นักเรียนต้องเรียนจบปริญญาตรีอย่างน้อย 3 ปีในแคนดาหรือ 4 ปีนอกแคนาดา ปริญญาตรีที่แนะนำก็อย่างเช่น Biomedical, Bioscience ซึ่งหากเรียนที่ไหนในแคนาดาก็ถือว่าดีหมด เพราะว่ามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่กว่าร้อยที่ก็เป็นส่วนของรัฐทั้งหมด เพียงแต่สำคัญเรื่องการวางแผนทางเงินเรียนจบทั้งหมดนี้ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ด้วยเช่นกัน