ประเทศสิงคโปร์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประชากรในสิงคโปร์มีความหลากหลายเชื้อชาติ ทำให้มีความหลากหลายเช่นกันทางภาษาที่คนใช้สื่อสารกัน เป็นประเทศที่มีกฎหมายเคร่งครัดทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องระเบียบวินัย เป็นเมืองที่เจริญ บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก เป็นอันดับต้นๆ ในเอเชีย นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศในใจที่ผู้ปกครองหลายท่านส่งบุตรหลานไปเรียนที่สิงคโปร์ ที่สำคัญใช้เวลาในการเดินทาง เพียง 2.30 ชั่วโมงโดยเครื่องบิน
ภาษาราชการในสิงคโปร์
ภาษาราชการในประเทศสิงคโปร์ มี 4 ภาษา
- ภาษาภาษาจีน
- ภาษาอังกฤษ
- ภาษามาเลย์
- ภาษาทมิฬ
พื้นที่ทั้งหมดในสิงคโปร์
สิงคโปร์มีพื้นที่ทั้งหมดโดยรวมประมาณ 236,800 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นภาคพื้นดิน 230,800 ตารางกิโลเมตร ภาคพื้นน้ำ 6,000 ตารางกิโลเมตร
ระบบการขนส่งในสิงคโปร์
สิงคโปร์มีระบบการขนส่งทางบกเป็นส่วนใหญ่ มีระบบการขนส่งมวลชนที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบายอย่างมาก ได้แก่ รถประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) รถไฟฟ้ารางเบา (LRT) แลรถแท็กซี่
อาหารประจำชาติของสิงคโปร์
อาหารประจําชาติของสิงคโปร์ คือ ลักซา (Laksa) ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิบ้านเรา มีรสชาติเข้มข้น พูดง่ายๆ จะคล้ายๆ ข้าวซอยของไทย ลักซามีส่วนผสมและวัตถุดิบหลักๆ ได้แก่ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง มีแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ แต่คนจะนิยมแบบที่ใส่กะทิมากกว่า
นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออีกมากมาย เช่น ข้าวมันไก่, Char Kway Teow (ลักษณะคล้ายผัดซีอิ๊ว), บักกุดเต๋, Roti Prata & Teh Tarik (โรตีปราตากับชาใส่นม), Nasi Lemak (เป็นข้าวสวยที่หุงด้วยกะทิ รับประทานคู่กับปลาทอดหรือปีกไก่ทอด น้ำพริกปลาย่าง และเครื่องเคียง)
แหล่งที่พักอาศัยของคนสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์มีพื้นที่ขนาดเล็กมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกาะ และได้ถูกถมพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างประเทศขึ้นมา ด้วยความที่สิงคโปร์มีพื้นที่ขนาดเล็ก จึงต้องมีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมและใช้สอยให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด บ้านพักอาศัยของคนสิงคโปร์ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารชุด(คอนโดมีเนียม) อพาร์ตเม้นต์ อาคารสูง แฟลตหรือบ้านรัฐบาล Housing & Development Board (HDB) ด้วยเหตุผลที่สิงคโปร์มีพื้นที่เล็กมาก ทำให้ชาวสิงคโปร์จำเป็นต้องอาศัยอยู่ร่วมกันหลายครอบครัว ถ้าจะถามว่าสิงคโปร์มีบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมรึเปล่า คำตอบคือ มี แต่มีจำนวนน้อย เพราะเนื่องจากที่ดินมีราคาแพงหูฉี่ จึงเป็นเหตุผลว่าเวลาที่เราไปเที่ยวสิงคโปร์ เราจะเห็นตึกรามบ้านช่อง อาคารสูงเรียงรายเต็มไปหมด
ที่พักอาศัยในย่าน
- ย่าน Orchard Road (District 9) ถนนออร์ชาร์ดเป็นย่านแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย ร่มรื่นและปลอดภัย โดยปกติค่าเช่าที่นี่จะมีราคาสูง ข้อดีของย่านนี้คือการใช้ชีวิตในทำเลใจกลางเมือง รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังของถนนออร์ชาร์ด อยู่ใกล้แค่เอื้อม รวมไปถึงร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายที่สุด
- ย่าน Holland Village (District 10) เป็นหนึ่งในย่านที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติในการพักอาศัย มีความร่มรื่นเต็มไปด้วยบ้านผู้คนที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัว มีคอนโดมิเนียม และตึกอพาร์ตเมนต์ที่มีรั้วรอบขอบชิดอย่างดี อยู่ใกล้กับ Botanical Gardens และเดินทางไปช้อปปิ้งที่ถนน Orchard เพียงไม่กี่นาที
- ย่าน Tiong Bahru (District 3) เป็นบ้านจัดสรรที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ อพาร์ทเมนท์ในย่านนี้มีความหรูหรา และมีมรดกทางวัฒนธรรมที่สวยงาม ย่านนี้ได้รับนักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จึงเต็มไปด้วยเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า และร้านอาหารที่ทันสมัย
- ย่าน Sentosa (District 4) เกาะเซ็นโตซ่า เป็นที่รู้จักกันในนาม ‘resort island’ เสมือนเป็นสถานที่พักตากอากาศในสิงคโปร์ ตั้งห่างจากใจกลางเมือง แต่นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจ และกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจมากมาย ทำให้ชีวิตมีสีสัน ไม่รู้สึกเบื่ออย่างแน่นอน
- ย่าน Marina Bay (District 1) เป็นหนึ่งในพื้นที่พิเศษในสิงคโปร์และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในการพักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติในขณะนี้ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม และมีพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น ชุ่มฉ่ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มากถึง 4 สาย เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
- ย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นย่านที่เราจะได้ลิ้มรสกับอาหารแสนอร่อย และจะไม่อดอย่างแน่นอน แถมยังได้สัมผัสวัฒนธรรมอาหารของคนสิงคโปร์อีกด้วย
ระบบการศึกษาของสิงคโปร์ ตั้งแต่เข้าเรียนปฐมวัย มัธยม จนถึงระดับปริญญา
การศึกษาขั้นพื้นฐานของสิงคโปร์ ใช้ระบบการศึกษาแบบ Primary (6 ปี) Secondary (4 ปี) A Level และ O Level การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์คือ ถึงระดับชั้น Primary 6 (เทียบเท่าชั้น ป.6)
ระดับก่อนประถมศึกษา หรือการศึกษาก่อนวัยเรียน ไม่ได้จัดเป็นการศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์ แต่ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะให้บุตรหลานเข้าเรียนในระดับนี้ เสมือนเป็นการเตรียมความพร้อมใน 1-3 ปี หรือเราจะเรียกว่า “Foundation Stage”
ระดับประถมศึกษา แบ่งออกเป็นประถมศึกษาตอนต้น 4 ปี (Primary 1-4) และประถมศึกษาตอนปลาย 2 ปี (Primary 5-6) ชั้นประถมต้นจะเรียน 3 วิชาหลัก คือ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาภาษาแม่ คือ จีน แมนดาริน, มาเลย์ หรือทมิฬ (อินเดีย) และวิชาคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา และในช่วงประถมปลาย นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มทางภาษา คือ EM 1. EM 2. และ EM 3. ซึ่งในการแยกนักเรียนเข้ากลุ่มทางภาษานั้น จะขึ้นอยู่กับทักษะความสามารถทางภาษาของนักเรียนแต่ละคน เมื่อนักเรียนจบประถมศึกษาตอนปลายแล้ว นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบระดับชาติ เรียกว่า PSLE (Primary School Leaving Examination) เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาในสาขาต่างๆ ตามความถนัดและความสามารถของแต่ละบุคคล
ระดับมัธยมศึกษา แบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร ใช้เวลาเรียน 4-5 ปี (Secondary 1-5) ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เรียน หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา จะเรียกว่า
- หลักสูตรพิเศษ (Special Course)
- หลักสูตรเร่งรัด (Express Course)
- หลักสูตรปกติ (Normal Course)
การศึกษา หลังมัธยมศึกษา (Post Secondary Education)
- Junior Colleges/Centralized Institutes นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้วจะต้องสอบ GCE “O” level เพื่อเข้า “Junior Colleges” หลักสูตรเรียน 2 ปี เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรการศึกษาก่อนเข้าเรียนต่อนระดับมหาวิทยาลัย (pre-university) หรือ Centralized Institutes หลักสูตร 3 ปี ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย การเข้ารับการศึกษาขึ้นอยู่กับคะแนนผลการสอบ GCE “O” level โดยหลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่านประกาศนียบัตร GCB (General Certificate of Education) ในระดับ “O” Level ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCB “N” Level แต่ถ้าต้องศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCB “O” Level เช่นเดียวกัน เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย
- Institute of Technical Education: ITE จัดฝึกอบรมการศึกษาทางเทคนิคและอาชีวศึกษาให้แก่ผู้สำเร็จมัธยมศึกษา เพื่อเตรียมตัวสำหรับทำงาน รวมทั้งจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่ทำงานแล้ว เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานที่สนองตอบความต้องการด้านอุตสาหกรรม
- Polytechnics เป็นการจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจการเงินการบัญชี การเดินเรือ พยาบาล เทคโนโลยีชีวภาพ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ วิทยาลัยเทคนิค ของสิงคโปร์มี 4 แห่งได้แก่
- Singapore Polytechnic
- Ngee Ann Polytechnic
- Temasek Polytechnic
- Nanyang Polytechnic
ระดับมหาวิทยาลัย (Universities)
สิงคโปร์มีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง คือ
- มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore :NUS) จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธุรกิจ
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University : NTU) จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และสาขาธุรกิจ และการบัญชี
- มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (Singapore Management University:SMU) จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ
Level/Grade | Age |
Preschool |
Pre-school playgroup | 3-4 |
Kindergarten | 4-6 |
Primary School |
Primary 1 | 6-7 |
Primary 2 | 7-8 |
Primary 3 | 8-9 |
Primary 4 | 9-10 |
Primary 5 | 10-11 |
Primary 6 | 11-12 |
Secondary School |
Secondary 1 | 12-13 |
Secondary 2 | 13-14 |
Secondary 3 | 14-15 |
Secondary 4 | 15-16 |
Secondary 5 (Normal Academic Stream) | 16-17 |
Secondary 6 (Integrated Programme) | 17-18 |
Post-Secondary Education |
Junior College, Polytechnic or Arts Institution, followed by University Education | Junior College age 16-18, Polytechnic Age 16-19 |
ที่มาข้อมูล:
- สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
การขอวีซ่านักเรียนประเทศสิงคโปร์ Student’s Pass
ขั้นตอนในการสมัคร Student’s Pass
- ยื่นวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ เมื่อนักเรียนได้รับเอกสาร Letter of Acceptance แล้ว ทางสถาบันที่ไปเรียนจะช่วยในการลงทะเบียนกรอกข้อมูลของนักเรียนเข้าสู่ในระบบ SOLAR หลังจากนั้นทางสถาบันจะแจ้ง SOLAP Application Reference Number มาให้นักเรียนเพื่อให้นำเอามา log in เข้าสู่ระบบ SOLAR
- ผู้สมัครจำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปในแบบฟอร์ม eForm16 ได้แก่ ข้อมูลหนังสือการเดินทาง อีเมลแอดเดรส ที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์
- Print แบบฟอร์ม eForm16 ออกมา เนื่องจากผู้สมัครจะต้องส่งแบบฟอร์มนี้ให้ ICA พิจารณาวีซ่า
- ชำระค่าสมัครวีซ่า Student’s Pass จำนวน 30 เหรียญสิงคโปร์ สามารถชำระโดย Credit/Debit Card ผ่านระบบออนไลน์ของสถานทูต สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซด์ http://www.ica.gov.sg
- รอผลการพิจารณา หากผลการพิจารณาวีซ่านักเรียนได้รับการอนุมัติผ่านแล้วจาก ICA ผู้สมัครจะต้องชำระค่าประกันสุขภาพ จำนวน 60 เหรียญสิงคโปร์
- หากผลการพิจารณาวีซ่านักเรียนได้รับการอนุมัติผ่านแล้ว ผู้สมัครจะได้รับหนังสือ In-Principle Approval (IPA) Letter จาก ICA ซึ่งจะแจ้งให้ผู้สมัครทำการชำระเงินประกัน (Security Deposit) $1,000 ซึ่งเงินประกันส่วนนี้ผู้สมัครจะได้รับคืนเมื่อผู้เรียนเรียนจบและเดินทางออกจากประเทศสิงคโปร์
- แนะนำให้นักเรียนเตรียมตัวเดินทางไปสิงคโปร์ก่อนเริ่มเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อไปดำเนินการตรวจร่างกายในโรงพยาบาลที่สิงคโปร์
- นำผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลที่สิงคโปร์ไปรับ Student Pass ที่ Immigration ตามที่อยู่ข้างล่าง
ระยะเวลารอผลพิจารณา Student’s Pass
รอผลพิจารณาวีซ่าประมาณ 4 สัปดาห์
ICA Building
10 Kallang Road, Level 4 (next to Lavender MRT station)
Singapore 208718
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร Student’s Pass
- หนังสือเดินทาง Passport เล่มจริง (มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน)
- แบบฟอร์ม eForm 16 และ eForm V36 จากระบบ ICA
- รูปถ่ายสี passport ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 4 ใบ (พื้นหลังสีขาว)
- Transcript (ทรานสคริปต์ผลการเรียนฉบับภาษาอังกฤษ ตัวจริง และสำเนา)
- ใบรับรองจบการศึกษาสูงสุด (ตัวจริง และสำเนา)
- ใบสูติบัตร ตัวจริง และสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) ตัวจริง และสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
- สำเนาบัตรประชาชนของนักเรียน และผู้ปกครอง พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
- สำเนาทะเบียนบ้านของนักเรียน และผู้ปกครอง พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
- ใบทะเบียนสมรสของผู้ปกครอง ตัวจริง และสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
- Letter of Acceptance from a Singapore Institution เอกสารตอบรับจากทางสถาบันการศึกษาที่จะไปเรียน
- Financial/Bank Statements หลักฐานทางการเงินเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แสดงจำนวนเงินตามระยะเวลา ตามที่กฎหมายระบุ
- Financial Confirmation Letter (ทางเดอะไลอ้อนจัดทำให้)
- Consent Form กรณีต่ำกว่า 18 ปี (ทางเดอะไลอ้อนจัดทำให้)
- ใบรับรองทางการแพทย์ (Medical Certificate) ตามที่ Immigration & Checkpoints Authority (ICA) ได้กำหนดไว้ในประเทศสิงคโปร์
*ค่าวีซ่า 30 เหรียญสิงคโปร์
*ค่าประกันสุขภาพ 60 เหรียญสิงคโปร์
There are no articles in this category. If subcategories display on this page, they may have articles.