LAIS ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ ซัมเมอร์แคมป์ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เยอรมัน ทุกระดับชั้นเรียน

ประเทศสิงคโปร์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประชากรในสิงคโปร์มีความหลากหลายเชื้อชาติ ทำให้มีความหลากหลายเช่นกันทางภาษาที่คนใช้สื่อสารกัน เป็นประเทศที่มีกฎหมายเคร่งครัดทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องระเบียบวินัย เป็นเมืองที่เจริญ บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก เป็นอันดับต้นๆ ในเอเชีย นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศในใจที่ผู้ปกครองหลายท่านส่งบุตรหลานไปเรียนที่สิงคโปร์ ที่สำคัญใช้เวลาในการเดินทาง เพียง 2.30 ชั่วโมงโดยเครื่องบิน

 

Things to know about Singapore 1

 

ภาษาราชการในสิงคโปร์
ภาษาราชการในประเทศสิงคโปร์ มี 4 ภาษา 

  • ภาษาภาษาจีน
  • ภาษาอังกฤษ
  • ภาษามาเลย์
  • ภาษาทมิฬ


พื้นที่ทั้งหมดในสิงคโปร์

สิงคโปร์มีพื้นที่ทั้งหมดโดยรวมประมาณ 236,800 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นภาคพื้นดิน 230,800 ตารางกิโลเมตร ภาคพื้นน้ำ 6,000 ตารางกิโลเมตร

 

ระบบการขนส่งในสิงคโปร์
สิงคโปร์มีระบบการขนส่งทางบกเป็นส่วนใหญ่ มีระบบการขนส่งมวลชนที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบายอย่างมาก ได้แก่ รถประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) รถไฟฟ้ารางเบา (LRT) แลรถแท็กซี่

 

Things to know about Singapore 2

 

อาหารประจำชาติของสิงคโปร์

อาหารประจําชาติของสิงคโปร์ คือ ลักซา (Laksa) ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิบ้านเรา มีรสชาติเข้มข้น พูดง่ายๆ จะคล้ายๆ ข้าวซอยของไทย ลักซามีส่วนผสมและวัตถุดิบหลักๆ ได้แก่ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง มีแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ แต่คนจะนิยมแบบที่ใส่กะทิมากกว่า

นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออีกมากมาย เช่น ข้าวมันไก่, Char Kway Teow (ลักษณะคล้ายผัดซีอิ๊ว), บักกุดเต๋, Roti Prata & Teh Tarik (โรตีปราตากับชาใส่นม), Nasi Lemak (เป็นข้าวสวยที่หุงด้วยกะทิ รับประทานคู่กับปลาทอดหรือปีกไก่ทอด น้ำพริกปลาย่าง และเครื่องเคียง)

 

แหล่งที่พักอาศัยของคนสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์มีพื้นที่ขนาดเล็กมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกาะ และได้ถูกถมพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างประเทศขึ้นมา ด้วยความที่สิงคโปร์มีพื้นที่ขนาดเล็ก จึงต้องมีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมและใช้สอยให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด บ้านพักอาศัยของคนสิงคโปร์ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารชุด(คอนโดมีเนียม) อพาร์ตเม้นต์ อาคารสูง แฟลตหรือบ้านรัฐบาล Housing & Development Board (HDB) ด้วยเหตุผลที่สิงคโปร์มีพื้นที่เล็กมาก ทำให้ชาวสิงคโปร์จำเป็นต้องอาศัยอยู่ร่วมกันหลายครอบครัว ถ้าจะถามว่าสิงคโปร์มีบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมรึเปล่า คำตอบคือ มี แต่มีจำนวนน้อย เพราะเนื่องจากที่ดินมีราคาแพงหูฉี่ จึงเป็นเหตุผลว่าเวลาที่เราไปเที่ยวสิงคโปร์ เราจะเห็นตึกรามบ้านช่อง อาคารสูงเรียงรายเต็มไปหมด

 

Things to know about Singapore 3

 

ที่พักอาศัยในย่าน

  • ย่าน Orchard Road (District 9) ถนนออร์ชาร์ดเป็นย่านแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัย ร่มรื่นและปลอดภัย โดยปกติค่าเช่าที่นี่จะมีราคาสูง ข้อดีของย่านนี้คือการใช้ชีวิตในทำเลใจกลางเมือง รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังของถนนออร์ชาร์ด อยู่ใกล้แค่เอื้อม รวมไปถึงร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายที่สุด
  • ย่าน Holland Village (District 10) เป็นหนึ่งในย่านที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติในการพักอาศัย มีความร่มรื่นเต็มไปด้วยบ้านผู้คนที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัว มีคอนโดมิเนียม และตึกอพาร์ตเมนต์ที่มีรั้วรอบขอบชิดอย่างดี อยู่ใกล้กับ Botanical Gardens และเดินทางไปช้อปปิ้งที่ถนน Orchard เพียงไม่กี่นาที
  • ย่าน Tiong Bahru (District 3) เป็นบ้านจัดสรรที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ อพาร์ทเมนท์ในย่านนี้มีความหรูหรา และมีมรดกทางวัฒนธรรมที่สวยงาม ย่านนี้ได้รับนักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จึงเต็มไปด้วยเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า และร้านอาหารที่ทันสมัย
  • ย่าน Sentosa (District 4) เกาะเซ็นโตซ่า เป็นที่รู้จักกันในนาม ‘resort island’ เสมือนเป็นสถานที่พักตากอากาศในสิงคโปร์ ตั้งห่างจากใจกลางเมือง แต่นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจ และกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจมากมาย ทำให้ชีวิตมีสีสัน ไม่รู้สึกเบื่ออย่างแน่นอน
  • ย่าน Marina Bay (District 1) เป็นหนึ่งในพื้นที่พิเศษในสิงคโปร์และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในการพักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติในขณะนี้ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม และมีพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น ชุ่มฉ่ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มากถึง 4 สาย เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
  • ย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นย่านที่เราจะได้ลิ้มรสกับอาหารแสนอร่อย และจะไม่อดอย่างแน่นอน แถมยังได้สัมผัสวัฒนธรรมอาหารของคนสิงคโปร์อีกด้วย

 

Things to know about Singapore 4

 

ระบบการศึกษาของสิงคโปร์ ตั้งแต่เข้าเรียนปฐมวัย มัธยม จนถึงระดับปริญญา

การศึกษาขั้นพื้นฐานของสิงคโปร์ ใช้ระบบการศึกษาแบบ Primary (6 ปี) Secondary (4 ปี) A Level และ O Level การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์คือ ถึงระดับชั้น Primary 6 (เทียบเท่าชั้น ป.6)

 

Things to know about Singapore 5

 

ระดับก่อนประถมศึกษา หรือการศึกษาก่อนวัยเรียน ไม่ได้จัดเป็นการศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์ แต่ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะให้บุตรหลานเข้าเรียนในระดับนี้ เสมือนเป็นการเตรียมความพร้อมใน 1-3 ปี หรือเราจะเรียกว่า “Foundation Stage”

ระดับประถมศึกษา แบ่งออกเป็นประถมศึกษาตอนต้น 4 ปี (Primary 1-4) และประถมศึกษาตอนปลาย 2 ปี (Primary 5-6) ชั้นประถมต้นจะเรียน 3 วิชาหลัก คือ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาภาษาแม่ คือ จีน แมนดาริน, มาเลย์ หรือทมิฬ (อินเดีย) และวิชาคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา และในช่วงประถมปลาย นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มทางภาษา คือ EM 1. EM 2. และ EM 3. ซึ่งในการแยกนักเรียนเข้ากลุ่มทางภาษานั้น จะขึ้นอยู่กับทักษะความสามารถทางภาษาของนักเรียนแต่ละคน เมื่อนักเรียนจบประถมศึกษาตอนปลายแล้ว นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบระดับชาติ เรียกว่า PSLE (Primary School Leaving Examination) เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาในสาขาต่างๆ ตามความถนัดและความสามารถของแต่ละบุคคล

 

ระดับมัธยมศึกษา แบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร ใช้เวลาเรียน 4-5 ปี (Secondary 1-5) ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เรียน หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา จะเรียกว่า

  • หลักสูตรพิเศษ (Special Course)
  • หลักสูตรเร่งรัด (Express Course)
  • หลักสูตรปกติ (Normal Course)

 

การศึกษา หลังมัธยมศึกษา (Post Secondary Education)

  • Junior Colleges/Centralized Institutes นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้วจะต้องสอบ GCE “O” level เพื่อเข้า “Junior Colleges” หลักสูตรเรียน 2 ปี เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรการศึกษาก่อนเข้าเรียนต่อนระดับมหาวิทยาลัย (pre-university) หรือ Centralized Institutes หลักสูตร 3 ปี ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย การเข้ารับการศึกษาขึ้นอยู่กับคะแนนผลการสอบ GCE “O” level โดยหลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่านประกาศนียบัตร GCB (General Certificate of Education) ในระดับ “O” Level ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCB “N” Level แต่ถ้าต้องศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCB “O” Level เช่นเดียวกัน เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย
  • Institute of Technical Education: ITE จัดฝึกอบรมการศึกษาทางเทคนิคและอาชีวศึกษาให้แก่ผู้สำเร็จมัธยมศึกษา เพื่อเตรียมตัวสำหรับทำงาน รวมทั้งจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่ทำงานแล้ว เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานที่สนองตอบความต้องการด้านอุตสาหกรรม
  • Polytechnics เป็นการจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจการเงินการบัญชี การเดินเรือ พยาบาล เทคโนโลยีชีวภาพ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ วิทยาลัยเทคนิค ของสิงคโปร์มี 4 แห่งได้แก่
    • Singapore Polytechnic
    • Ngee Ann Polytechnic
    • Temasek Polytechnic
    • Nanyang Polytechnic

 

ระดับมหาวิทยาลัย (Universities)

สิงคโปร์มีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง คือ

  1. มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore :NUS) จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธุรกิจ
  2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University : NTU) จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และสาขาธุรกิจ และการบัญชี
  3. มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (Singapore Management University:SMU) จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ

 

Level/Grade

Age

Preschool

Pre-school playgroup

3-4

Kindergarten

4-6

Primary School

Primary 1

6-7

Primary 2

7-8

Primary 3

8-9

Primary 4

9-10

Primary 5

10-11

Primary 6

11-12

Secondary School

Secondary 1

12-13

Secondary 2

13-14

Secondary 3

14-15

Secondary 4

15-16

Secondary 5

(Normal Academic Stream)

16-17

Secondary 6

(Integrated Programme)

17-18

Post-Secondary Education

Junior College, Polytechnic or Arts Institution, followed by University Education

Junior College age 16-18, Polytechnic Age 16-19

ที่มาข้อมูล:    

- สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

 

การขอวีซ่านักเรียนประเทศสิงคโปร์ Student’s Pass

ขั้นตอนในการสมัคร Student’s Pass

  • ยื่นวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ เมื่อนักเรียนได้รับเอกสาร Letter of Acceptance แล้ว ทางสถาบันที่ไปเรียนจะช่วยในการลงทะเบียนกรอกข้อมูลของนักเรียนเข้าสู่ในระบบ SOLAR หลังจากนั้นทางสถาบันจะแจ้ง SOLAP Application Reference Number มาให้นักเรียนเพื่อให้นำเอามา log in เข้าสู่ระบบ SOLAR
  • ผู้สมัครจำเป็นต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปในแบบฟอร์ม eForm16 ได้แก่ ข้อมูลหนังสือการเดินทาง อีเมลแอดเดรส ที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์
  • Print แบบฟอร์ม eForm16 ออกมา เนื่องจากผู้สมัครจะต้องส่งแบบฟอร์มนี้ให้ ICA พิจารณาวีซ่า
  • ชำระค่าสมัครวีซ่า Student’s Pass จำนวน 30 เหรียญสิงคโปร์ สามารถชำระโดย Credit/Debit Card ผ่านระบบออนไลน์ของสถานทูต สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซด์ http://www.ica.gov.sg
  • รอผลการพิจารณา หากผลการพิจารณาวีซ่านักเรียนได้รับการอนุมัติผ่านแล้วจาก ICA ผู้สมัครจะต้องชำระค่าประกันสุขภาพ จำนวน 60 เหรียญสิงคโปร์
  • หากผลการพิจารณาวีซ่านักเรียนได้รับการอนุมัติผ่านแล้ว ผู้สมัครจะได้รับหนังสือ In-Principle Approval (IPA) Letter จาก ICA ซึ่งจะแจ้งให้ผู้สมัครทำการชำระเงินประกัน (Security Deposit) $1,000 ซึ่งเงินประกันส่วนนี้ผู้สมัครจะได้รับคืนเมื่อผู้เรียนเรียนจบและเดินทางออกจากประเทศสิงคโปร์
  • แนะนำให้นักเรียนเตรียมตัวเดินทางไปสิงคโปร์ก่อนเริ่มเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อไปดำเนินการตรวจร่างกายในโรงพยาบาลที่สิงคโปร์
  • นำผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลที่สิงคโปร์ไปรับ Student Pass ที่ Immigration ตามที่อยู่ข้างล่าง

 

ระยะเวลารอผลพิจารณา Student’s Pass

รอผลพิจารณาวีซ่าประมาณ 4 สัปดาห์

 

ICA Building

10 Kallang Road, Level 4 (next to Lavender MRT station)

Singapore 208718

 

เอกสารที่ใช้ในการสมัคร Student’s Pass

  • หนังสือเดินทาง Passport เล่มจริง (มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน)
  • แบบฟอร์ม eForm 16 และ eForm V36 จากระบบ ICA
  • รูปถ่ายสี passport ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 4 ใบ (พื้นหลังสีขาว)
  • Transcript (ทรานสคริปต์ผลการเรียนฉบับภาษาอังกฤษ ตัวจริง และสำเนา)
  • ใบรับรองจบการศึกษาสูงสุด (ตัวจริง และสำเนา)
  • ใบสูติบัตร ตัวจริง และสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) ตัวจริง และสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
  • สำเนาบัตรประชาชนของนักเรียน และผู้ปกครอง พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
  • สำเนาทะเบียนบ้านของนักเรียน และผู้ปกครอง พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
  • ใบทะเบียนสมรสของผู้ปกครอง ตัวจริง และสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
  • Letter of Acceptance from a Singapore Institution เอกสารตอบรับจากทางสถาบันการศึกษาที่จะไปเรียน
  • Financial/Bank Statements หลักฐานทางการเงินเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แสดงจำนวนเงินตามระยะเวลา ตามที่กฎหมายระบุ
  • Financial Confirmation Letter (ทางเดอะไลอ้อนจัดทำให้)
  • Consent Form กรณีต่ำกว่า 18 ปี (ทางเดอะไลอ้อนจัดทำให้)
  • ใบรับรองทางการแพทย์ (Medical Certificate) ตามที่ Immigration & Checkpoints Authority (ICA) ได้กำหนดไว้ในประเทศสิงคโปร์

 

*ค่าวีซ่า 30 เหรียญสิงคโปร์

*ค่าประกันสุขภาพ 60 เหรียญสิงคโปร์

เรียนต่อมหาวิทยาลัยที่สิงคโปร์ เรียนต่อมหาวิทยาลัย SIM Global Education, Singapore

SIM เป็นศูนย์การศึกษาแห่งเอเชียที่เข้าถึงการศึกษาระดับโลกในราคาที่ไม่แพง ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลกจาก ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป